การเลือกถังสำรองน้ำสำหรับบ้านพักอาศัย

ถังเก็บน้ำมีหน้าที่สำหรับสำรองน้ำไว้ใช้ในช่วงเวลาที่น้ำไม่ไหล จึงมีความสำคัญควบคู่กับการติดตั้งปั๊มน้ำ และสามารถใช้ร่วมกับระบบจ่ายน้ำได้ทั้งแบบขึ้นที่สูง หรือจ่ายน้ำลงมาใช้ตามจุดต่างๆ โดยนิยมใช้ตามบ้านพักอาศัย อพาร์ทเม้นท์ หรือสถานที่ๆ ใช้น้ำเป็นประจำ

ความสำคัญของการมีถังสำรองน้ำ

  1. สำรองน้ำประปาไว้ใช้ในกรณีที่น้ำไม่ไหล ในกรณีน้ำประปาไม่ไหล เราสามารถดึงน้ำจากถังเก็บน้ำมาใช้งานได้ ช่วงระหว่าง รอน้ำประปากลับมาไหลปกติ
  2. ช่วยถนอมการใช้งานปั๊มน้ำ เพราะน้ำประปาที่ปล่อยออกมา จากท่อประปามาสู่บ้านนั้น ไม่เต็มท่อเสมอไป ปั๊มจึงดูดทั้งน้ำและอากาศ ส่งผลกระทบให้ปั๊มน้ำเกิดปัญหาตามมา
  3. ข้อบังคับตามกฎหมาย ไม่ให้มีการใช้ปั๊มน้ำในการดูดจาก ท่อประปาส่วนกลางโดยตรง เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อ ส่วนรวมในการใช้น้ำ เพราะหากบริเวณใกล้เคียงที่อยู่ ในเส้นท่อน้ำเดียวกันมีท่อรั่วหรือท่อแตกใต้ดินเกิดขึ้น เครื่องปั๊มน้ำจะดูดนำสิ่งสกปรกที่อยู่นอกท่อเข้าไปปะปนกับน้ำประปา  ทำให้น้ำประปาที่เปิดใช้อาจมีกลิ่นเหม็นและมีเชื้อโรคปะปนอยู่
  4. ถังเก็บน้ำช่วยพักตะกอน น้ำประปามักมีตะกอน และ สารปนเปื้อน ปนมาในน้ำจากท่อประปา ดังนั้นการมีถังน้ำ จะช่วยพักตะกอน ให้อยู่ภายในตัวถังก่อนไหลเข้าสู่ตัวบ้าน

การเลือกถังสำรองน้ำ

ในปัจจุบันนี้ มีถังเก็บน้ำให้เราสามารถเลือกซื้อได้หลากหลายทั้งยี่ห้อ วัสดุตัวถัง ขนาดความจุ ลวดลาย  สามารถแบ่งตามประเภทของการติดตั้งก็จะแบ่งได้เป็น 2 ประเภท ทั้งนี้เลือกใช้แบบไหน ควรเลือกตามความเหมาะสมของบ้านนั้นๆ

  1. ถังเก็บน้ำบนดิน ถังเก็บน้ำบนดินเป็นถังที่ติดตั้งอยู่เหนือพื้นดิน เหมาะกับบ้านที่มีพื้นที่เพียงพอในการวางถังเก็บน้ำ เช่น บริเวณหลังบ้าน หรือข้างบ้าน
  2. ถังเก็บน้ำใต้ดิน ถังเก็บน้ำใต้ดินเป็นถังที่ติดตั้งอยู่ใต้พื้นดิน เหมาะกับบ้านที่มีพื้นที่จำกัด ไม่สามารถวางถังน้ำบนดินได้

การเลือกขนาดถังเก็บน้ำ พิจารณาดังนี้

  1. จำนวนผู้ใช้น้ำ หรือผู้อาศัยในบ้าน / อพาร์ทเม้นท์ และสถานที่อื่นๆ
  2. ระยะเวลาในการเก็บน้ำสำรองเอาไว้ใช้

* จากข้อมูลของการประปานครหลวง ผู้ที่พักอาศัย ในเขตนครหลวงจะใช้น้ำเฉลี่ยวันละ 200 ลิตรต่อคน (ผู้ที่พักอาศัยในเขตเทศบาลจะใช้น้ำเฉลี่ย 120 ลิตรต่อคนต่อวัน และผู้ที่พักอาศัยแถบชานเมืองจะใช้น้ำเฉลี่ย 70 ลิตรต่อคนต่อวัน:  ข้อมูลของการประปาส่วนภูมิภาค)

สามารถเลือกขนาดถังได้ ดังต่อไปนี้

จำนวนผู้พักอาศัย X ปริมาณการใช้น้ำเฉลี่ยต่อคนต่อวัน X ระยะเวลาที่ต้องการสำรองน้ำไว้ใช้

ยกตัวอย่าง
ผู้พักอาศัย 10 คน ขนาดถังเก็บน้ำที่ควรเลือกใช้คือขนาดไม่น้อยกว่า  10 x 200 x 2  = 4000 ลิตร เป็นต้น
* ซึ่งสามารถซื้อถังเก็บน้ำขนาด 2000 ลิตร จำนวน 2 ถังก็ได้ เช่นกัน

การติดตั้งถังสำรองน้ำเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการแก้ไขปัญหาน้ำไหลเบา ควบคู่ไปกับการติดตั้งปั๊มน้ำ ซึ่งการติดตั้งปั๊มน้ำ สำหรับใช้งาน โดยสูบน้ำจากถังสำรองน้ำนั้น ปลอดภัยต่อตัวคุณและครอบครัว ไม่ผิดกฎหมาย และยังไม่ทำให้เพื่อนบ้านเดือดร้อน คาลปีด้า เป็นผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับระบบปั๊มน้ำสำหรับบ้านพักอาศัย  อาคารสูง และปั๊มน้ำระบบอื่นๆ

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ หรือขอคำปรึกษาเกี่ยวกับข้อมูลการใช้งานได้ที่ บริษัท คาลปีด้า (ประเทศไทย) จำกัด โทร. 02-275-0027 หรือ
ทางช่องทางออนไลน์ Line Official: @calpeda.thailand Facebook: Calpeda Thailand

ปั๊มน้ำสำหรับอาคารสูง

Contact